การเดินทางไปยังหมู่บ้านแม่กำปองสะดวกสบาย สามารถเลือกการเดินทางได้ตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว เช่ามอเตอร์ไซค์ เช่ารถยนต์ หากขับรถชำนาญก็เป็นตัวเลือกที่ดี และสะดวกสบายมาก ๆ เพราะถนนไปหมู่บ้านแม่กำปองค่อนข้างดี อาจจะมีบางช่วงในตัวหมู่บ้านแม่กำปองที่เป็นทางชัน จุดนี้หากไม่แน่ใจแนะนำให้จอดรถที่ลานจอดรถของหมู่บ้านแล้วเดินเที่ยวได้เลยค่ะ หรือนั่งรถตู้ไปได้ แต่การเดินทางโดยรถตู้ต้องโทรไปจอง หรือติดต่อที่เพจ “รถตู้ม่อนแจ่มแม่กำปอง” หรือเพจ “รถตู้น้ำพุร้อนสันกำแพง” เพื่อจองที่นั่งล่วงหน้าได้เลย เพราะในแต่ละวันจะมีเที่ยวรถวิ่งไม่เยอะ เพื่อความสะดวกจองไว้ก่อนดีกว่าค่ะ หรืออีกวิธีที่สะดวกสบายมาก ๆ ยิ่งไปกันหลาย ๆ คนยิ่งคุ้มและประหยัดสุด ๆ ก็คือการเช่ารถแดง ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับการเจรจาของเราและพี่โชเฟอร์ค่ะ วิธีนี้อาจจะได้ราคาไม่เท่ากัน แต่การเที่ยวเชียงใหม่วิธีนี้ความสนุกสนานคุณร้อยแน่นอนค่ะ
หมู่บ้านแม่กำปองแม้จะเป็นที่ที่สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ แต่ถ้าอยากพักผ่อนให้เต็มที่ซึมซับบรรยากาศ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดแนะนำว่าให้ค้างสักคืนสองคืนค่ะ ที่แม่กำปองมีที่พักให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่โฮมสเตย์ของชาวบ้าน บรรยากาศน่ารักเป็นกันเอง ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท ส่วนใหญ่มักจะมีอาหารเช้าเบา ๆ อย่างข้าวต้มให้ด้วย บางบ้านจะมีพาไปเก็บเมล็ดกาแฟตอนเช้าด้วย ใครอยากลองสัมผัสวิถีชาวบ้านของหมู่บ้านแม่กำปองต้องลองสักครั้งค่ะ หรือใครสายคอนเทนต์ที่แม่กำปองก็มีที่พักทั้งแนว cozy อบอุ่น ไปจนถึง luxury หรูหรา แช่อ่างอ่านหนังสือกลางหุบเขาถ่ายรูปทำคอนเท้นต์สวย ๆ ได้แน่นอน
ไปแม่กำปองต้องไม่พลาด อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าที่หมู่บ้านแม่กำปองมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก ๆ แค่ในโซนตลาดแม่กำปองก็ถ่ายรูปลงสตอรี่ได้รัว ๆ เลยค่ะ ขอแนะนำ 3 ที่ที่แทบจะเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ ใครมาก็ต้องถ่ายรูปนะคะ (ส่วนคาเฟ่อื่น ๆ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่ม “เรารักแม่กำปอง” ในเฟสบุคได้เลยค่ะ)
ที่แรก ร้านลุงปุ๊ด ป้าเป็ง เป็นร้านกาแฟร้านแรก ๆ ของแม่กำปอง ตั้งเด่นอยู่กลางตลาด ใคร ๆ ที่ไปเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองจะต้องมาถ่ายรูปกันที่หน้าคาเฟ่นี้ เพราะร้านที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม อยู่ติดลำธาร และกาแฟหอมอร่อย เรียกได้ว่าถ้าใครมาเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ
ร้านที่สอง ชมนกชมไม้ อยู่ทางไปน้ำตกแม่กำปอง ร้านนี้เหมาะสำหรับการไปนั่งชมวิว นั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือ ฟังเพลงเงียบ ๆ คนเดียวมาก ๆ ค่ะ ใครที่ต้องการหนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวันแนะนำให้แวะร้านนี้เลย
ร้านที่สาม Teddu café อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของหมู่บ้านแม่กำปอง เป็นทั้งคาเฟ่ และมีที่พักด้วย สำหรับคนที่ชอบที่พักสวย ๆสงบ ร่มรื่น ฟังเสียงน้ำเอื่อย ๆ แนะนำที่นี่เลยค่ะ ส่วนใครไม่ได้เข้าพักก็ไปดื่มโกโก้เบลเยี่ยมเข้มข้นได้ที่นี่ เลือกเค้กสวย ๆ สักก้อนมากินคู่กันนั่งฟังเสียงน้ำไหลไปด้วยเพลินจนลืมเวลาเลยล่ะค่ะ ขากลับเพิ่มอดรีนาลีนในเลือดสักหน่อยด้วยการไปเดินไต่สะพานแขวน สูงนิด เสียวหน่อย แต่ถ่ายรูปออกมาปังมากจนเพื่อนขอตามรอยเลยล่ะค่ะ
นอกจากคาเฟ่แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองก็คือชิม “ไข่ป่าม” ไข่ป่ามจะคล้ายกับไข่เจียว แต่ใส่ในกระทงใบตอง และย่างด้วยเตาถ่าน ถ้าไปช่วงหน้าหนาวการตื่นมาแล้วได้กินไข่ป่ามร้อน ๆ นี่เพิ่มพลังชีวิตเต็มร้อยได้เลย
ก่อนกลับเช้าวันรุ่งขึ้นห้ามพลาดไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วฝิ่นในโครงการหลวงตีนตก ซึ่งเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยเต็มตามาก เพราะเป็นมุมพาโนรามาที่แทบจะไม่มีต้นไม้บังเลย ถ้าไปหน้าหนาวก็อาจจะเบียดเสียดหน่อย แต่ถ้าไปหน้าร้อนแบบนี้นอกจากอากาศจะสบายๆ ไม่หนาวมาก ยังได้ชมวิวแบบสบายสายตาแบบสุดๆ และถ้าหากเพื่อนๆ เป็นสายน้ำตกดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้วก็ยังไปเดินชอมน้ำตก แวะเล่นน้ำเย็นๆ ก่อนจะกลับลงมาเที่ยวเชียงใหม่ต่อก็เพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี